กาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวแบบธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ หรือการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สำหรับใครที่อยากเดินทางไปกาญจนบุรี แต่ยังไม่รู้ว่าจะเดินทางไปด้วยวิธีใด วันนี้เรามีวิธีการเดินทางไปกาญจนบุรีมาแนะนำกัน พร้อมด้วยแนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี

ก่อนเที่ยวต้องรู้ เดินทางไปกาญจนบุรีด้วยวิธีใดได้บ้าง

การเดินทางไปกาญจนบุรีนั้นสามารถไปได้หลาวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถส่วนตัว รถตู้ รถไฟ และรถร่วมบขส. ซึ่งระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางแต่ละรูปแบบก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ไปดูกันว่าการเดินทางไปกาญจนบุรีแต่ละรูปแบบใช้เวลาเท่าไร

วิธีเดินทางไปกาญจนบุรีด้วยรถส่วนตัว

การเดินทางไปกาญจนบุรีด้วยรถส่วนตัวถือเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด เพราะคุณสามารถออกเดินทางได้ตามเวลาที่ต้องการ และสามารถแวะเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ระหว่างทางได้ตามใจชอบ โดยเส้นทางหลักในการเดินทางไปกาญจนบุรีมีอยู่ 2 เส้นทางคือ

  • เส้นทางกรุงเทพฯ – นครปฐม – ราชบุรี – กาญจนบุรี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) มุ่งหน้าไปจังหวัดนครปฐม จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 321 ผ่านจังหวัดราชบุรีเข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี รวมระยะทางประมาณ 128 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง
  • เส้นทางกรุงเทพฯ – นครปฐม – สมุทรสงคราม – เพชรบุรี – กาญจนบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) มุ่งหน้าไปจังหวัดสมุทรสงคราม แล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 3176 ไปจังหวัดเพชรบุรี และใช้ทางหลวงหมายเลข 3228 เพื่อเข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี รวมระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง

วิธีเดินทางไปกาญจนบุรีด้วยรถไฟ

เดินทางไปกาญจนบุรี

การเดินทางไปกาญจนบุรีด้วยรถไฟก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างทางได้โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยมีบริการรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปยังสถานีกาญจนบุรีทุกวัน โดยรถไฟจะออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง จึงจะถึงสถานีกาญจนบุรี ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 100-200 บาท ขึ้นอยู่กับชั้นและประเภทของรถไฟ หากต้องการความสะดวกสบาย แนะนำให้นั่งรถไฟด่วนพิเศษชั้น 2 ที่มีที่นั่งแบบปรับเอนได้ และบริการอาหารและเครื่องดื่มบนรถไฟ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สะดวกสบายไม่แพ้กัน แต่ก่อนที่จะเดินทางควรตรวจสอบรอบรถไฟก่อนเสมอ

วิธีเดินทางไปกาญจนบุรีด้วยรถตู้

การเดินทางไปกาญจนบุรีด้วยรถตู้มีความคล่องตัวและราคาไม่แพง โดยรถตู้จะออกจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ (บขส.) มุ่งหน้าไปยังสถานีขนส่งกาญจนบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 180-200 บาท

วิธีเดินทางไปกาญจนบุรีด้วยรถร่วมบขส.

การนั่งรถร่วมบริการของบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) ซึ่งจะมีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศให้บริการ โดยรถจะออกจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง จึงจะถึงสถานีขนส่งกาญจนบุรี ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 120-200 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ

แนะนำ 10 ที่เที่ยวกาญจนบุรีเด็ด ๆ 

กาญจนบุรีเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ตอบโจทย์ความต้องการของนักเที่ยวเที่ยวหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เที่ยวชมความงดงามของธรรมชาติ หรือชอบเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ก็เหมาะ ไปดูกันว่าเดินทางไปกาญจนบุรีควรไปเที่ยวที่ไหนบ้าง 

ต้นจามจุรีย์ยักษ์

ต้นจามจุรีย์ยักษ์

ต้นจามจุรีย์ยักษ์ เป็นต้นไม้ที่มีอายุนับร้อยปี มีลำต้นที่ใหญ่โตและแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปอย่างกว้างขวาง ถือเป็นแลนด์มาร์คของอำเภอไทรโยค ใครที่เดินทางไปกาญจนบุรีก็ต้องแวะมาถ่ายรูปเช็กอิน เก็บบรรยากาศที่นี่กัน นอกจากความสวยงามแล้ว บริเวณรอบ ๆ ต้นจามจุรีย์ยักษ์ยังทำสะพานไม้เป็นวงกลมรอบต้นไว้ด้วย ใครจะนั่งชิล ๆ ชมธรรมชาติก็สามารถทำได้

น้ำตกไทรโยคน้อย

ถ้าพูดถึงน้ำตกในกาญจนบุรี ก็ต้องนึกถึงน้ำตกไทรโยคน้อยเป็นอันดับต้น ๆ เพราะมีความสวยงามอลังการไม่แพ้น้ำตกดังอื่น ๆ เลย นอกจากความสวยงามแล้ว ที่น้ำตกแห่งนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ล่องแพ เล่นน้ำ แคมป์ปิ้ง ใครที่เดินทางไปกาญจนบุรีไม่ควรพลาดที่จะมาสัมผัสความงามของน้ำตกไทรโยคน้อย

สะพานข้ามแม่น้ำแคว

สะพานข้ามแม่น้ำแคว

สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสะพานที่สร้างข้ามแม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อย มีความยาวกว่า 400 เมตร ถือเป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากาญจนบุรี ยิ่งในช่วงหน้าน้ำหลากจะยิ่งสวยงามเป็นพิเศษ 

ทางรถไฟสายมรณะ

ทางรถไฟสายมรณะ เป็นรถไฟสายประวัติศาสตร์ของโลก ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สร้างขึ้นโดยกองทัพญี่ปุ่น ที่ต้องเสียชีวิตไปมากมายระหว่างการก่อสร้าง จึงได้ชื่อว่าเป็นสายมรณะ ปัจจุบันถูกดัดแปลงให้เป็นแลนด์มาร์กสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนที่เดินทางไปกาญจนบุรีมักจะแวะมาเดินชมบนทางรถไฟและชื่นชมธรรมชาติรอบข้างไปด้วย

น้ำตกเอราวัณ

อีกหนึ่งน้ำตกของกาญจนบุรีคือ น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีจุดเด่นคือ น้ำที่ไหลลงมาเป็นชั้น ๆ เหมือนชั้นลอยของเทวสถานเอราวัณในวรรณคดีอินเดีย น้ำตกเอราวัณนั้นมีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

ถ้ำธารลอด

ถ้ำธารลอด ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ เป็นถ้ำที่มีลำธารไหลผ่านอย่างสวยงาม สำหรับใครที่เดินทางไปกาญจนบุรีไม่ควรพลาดการไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ถ้ำธารลอด เพื่อชมความสวยงามของหินงอกหินย้อยได้ แต่ในบางช่วงของเส้นทางจะต้องไต่เขาสูงชัน เพื่อชมความงดงามของธรรมชาติ ดังนั้นควรเตรียมตัวให้พร้อม

สะพานมอญ

สะพานมอญ

สะพานมอญ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีความยาวประมาณ 850 เมตร ทอดยาวข้ามลำน้ำซองกาเลีย สะพานแห่งนี้ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวมอญที่อพยพมาอยู่ที่กาญจนบุรี นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนมักเดินทางมาชมความงดงามของวิวแม่น้ำบนสะพานที่มีความสวยงาม นอกจากยังมีบริการเช่าชุดมอญ เพื่อสวมใส่ถ่ายรูปบนสะพาน เพื่อเก็บเป็นความทรงจำอีกด้วย 

บ้านอีต่อง – ทองผาภูมิ

บ้านอีต่อง ตั้งอยู่ในอำเภอทองผาภูมิ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติ มีเสน่ห์ในความเรียบง่ายและบรรยากาศที่สงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ใกล้ ๆ กันยังมีน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นและป่าทุ่งหญ้าให้ได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติสุดชิลอีกด้วย

พระเจดีย์สามองค์

พระเจดีย์สามองค์ประกอบด้วยเจดีย์ 3 องค์ ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้มาสัมผัสกับความงดงามทางศิลปกรรม และความศรัทธาอันล้ำค่า นับว่าเป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธาและความสัมพันธ์ระหว่างชาวไทย ชาวมอญ และชาวกระเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่

วัดถ้ำเสือ

วัดถ้ำเสือ

วัดถ้ำเสือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับวัดถ้ำเสือเป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่าง ๆ มากมาย แต่มีจุดเด่นอยู่ที่พระมหาธาตุเจดีย์ชินประทานพร เจดีย์สีทองอร่ามขนาดใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านบนยอดเขา เป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของวัดถ้ำเสือ

สรุป

เป็นอย่างไรบ้างกับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวเด็ด ๆ ที่ได้แนะนำให้ไปเมื่อเดินทางไปกาญจนบุรี รับรองเลยว่าแต่ละที่สวยงามน่าประทับใจแน่นอน สำหรับใครที่มีเวลา ลองหาโอกาสเดินทางไปกาญจนบุรี เพื่อสัมผัสความงดงามเหล่านั้นด้วยตัวเอง ก็ช่วยเติมเต็มวันพักผ่อนได้อย่างลงตัว แล้วรับรองว่าคุณจะหลงรักเสน่ห์ของกาญจนบุรีอย่างแน่นอน สำหรับใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวกาญจนบุรีแนะนำพักที่หินตก ริเวอร์แคมป์ ณ ช่องเขาขาด (Hintok River Camp @ Hellfire Pass) เป็นที่พักสไตล์แกล้มปิ้งที่ออกแบบให้มีความสวยงามลงตัว พร้อมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ใครที่เดินทางมาเที่ยวกาญจนบุรีก็อย่าลืมแวะมาพักที่นี่ได้